อาคารควรค่าแก่การอนุรักษ์

บ้านอิศรเสนา

บ้านอิศรเสนา

ที่ตั้ง เลขที่ 21 ถนนอัษฎางค์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร

ผู้ครอบครอง นายพารณ ร้อยโทนุรักษ์และนายพิพัฒพงศ์ อิศรเสนา ณ อยุธยา

ปีที่สร้าง ประมาณรัชกาลที่ 5

ปีที่ได้รับรางวัล พ.ศ. 2547

ประวัติ

บ้านอิศรเสนา มีประวัติยาวนานมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2430 เดิมเป็นของพระองค์เจ้าทองแถมถวัลยวงศ์ (กรมหลวงสรรพสาตร ศุภกิจ) ซึ่งเป็นพระราชโอรสองค์ที่ 39 ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 และเคยเป็นที่พักของแพทย์ชาวต่างชาติซึ่งทำงานในราชสำนัก ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงพระราชทานบ้านหลังนี้ให้เป็นที่พำนักของพระยาดำรงแพทยคุณ (ฮวด วีระไวทยะ) ซึ่งดำรงตำแหน่งแพทย์ประจำราชสำนัก หลังจากนั้น เจ้าพระยาวรพงศ์พิพัฒน์(หม่อมราชวงศ์เย็น อิศรเสนา) ได้ซื้อบ้านหลังนี้เพื่อเป็นของขวัญในวันแต่งงานของบุตรชาย คือ พระยาอิศรพงศ์พิพัฒน์ (หม่อมหลวงสิริ อิศรเสนา) กับหม่อมหลวงสำลี กุญชร ทายาทรุ่นที่รับสืบทอดมา คือ พารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา บุตรของพระยาอิศรพงศ์พิพัฒน์พร้อมด้วยครอบครัวจึงมีสถานะเป็นเจ้าของบ้านอิศรเสนาในวันนี้

บ้านอิศรเสนาเป็นอาคาร 2 ชั้น ก่อสร้างด้วยระบบผนังรับน้ำหนักก่ออิฐฉาบปูน รูปแบบสถาปัตยกรรมโคโลเนียลอิทธิพลคลาสสิค สันนิษฐานจากรูปแบบน่าจะก่อสร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 ออกแบบโดยช่างอิตาลีที่เข้ามาทำงานในราชสำนักสมัยนั้นหลังคาเป็นหลังคาปั้นหยา ตกแต่งด้วยลวดบัวปูนปั้น มีมุขกลางยื่นออกมาเป็นซุ้มทางเข้า องค์ประกอบและรายละเอียดค่อนข้างเรียบง่าย เน้นความสมดุลและสัดส่วนที่สง่างาม

พิพัฒพงศ์ อิศรเสนา ณ อยุธยา บุตรชายของคุณพารณ เป็นผู้ที่ริเริ่มและผลักดันให้อนุรักษ์บ้านโบราณหลังนี้ และมีบริษัทดีไซน์ 103 ออกแบบการอนุรักษ์ โดยพยายามรักษารูปแบบอาคารดั้งเดิมไว้ อีกทั้งบูรณะด้วยหลักการอนุรักษ์ที่ถูกต้อง ตั้งแต่การใช้วัสดุที่กลมกลืนกับวัสดุดั้งเดิม อาทิ ปูนฉาบแบบโบราณ เพื่อให้ไม่เกิดผลเสียกับอิฐเก่า ศึกษาถึงสีเดิมของห้องต่างๆ แม้แต่อุปกรณ์อาคารแบบเดิม เช่น กลอน และโคมไฟ ก็พยายามเลือกสรรหรือสั่งทำให้เหมือน หรือใกล้เคียงของเดิมมากที่สุด นอกจากนี้ยังคำนึงถึงการประหยัดพลังงาน ประหยัดเครื่องปรับอากาศและการใช้สอยอาคารให้เหมาะสมกับการออกแบบดั้งเดิม การอนุรักษ์บ้านอิศรเสนาใช้เวลานานถึง 15 ปี นับเป็นผลงานที่น่าชื่นชมของคุณพิพัฒพงศ์ ผู้ซึ่งมองบ้านโบราณหลังนี้ว่าเป็นมากกว่าสิ่งก่อสร้างเก่าๆ แต่ได้สั่งสมเรื่องราวมาตามกาลเวลา ทำให้เป็นมรดกที่มีคุณค่าและความหมายกับชีวิตของผู้อยู่อาศัยอย่างแท้จริง และยังเป็นตัวแทนของสถาปัตยกรรมในยุคสมัยหนึ่งที่จะดำรงอยู่ เป็นประโยชน์ด้านการศึกษาต่ออนุชนรุ่นหลังสืบไป

 

Isarasena House

Location Asadang Road, Khet Phra Nakorn, Bangkok

Proprietor Mr. Pharon, Lieutenant Nurak and Mr. Phiphatphong Issarasena Na Ayutthaya

Date of construction Reign of King Rama V

Conservation Awarded 2004

History

Ban Isarasena, or Isarasena House, has a long history that can be traced by back to 1887 when the house belonged to H.R.H. Prince Thongtham Thawalyawong (Krommaluang Sanphasat Suphakit), the 39th son of King Rama IV. The house has also previously served as a residence to foreign medical doctors who worked in the court of Siam.

The main building is a colonial 2-storey brick masonry wall with a touch of classic influence. Its architectural style places the date of construction to be during the reign of King Rama V, while the elaborate design is believed to be the work of italian architects who worked in the court in those days. The building adopts the Hipped roof decorated with stucco moldings with a portico main entrance. The house would seem simple in decoration with emphasis on elegant proportions and dignified balance. During the reign of King Rama V, the house was the residence of Phraya Damrong Phaethayakhun (Huat Virawaithaya), a court physician. Many years later, Chaophraya Woraphongphiphat (Mom Ratchawong Yen Issarasena) bought this house as a wedding present for his son, Phraya Issara Phongphiphat, (M.L Siri Isarasena) and his bride M.L. Samli Kunchon. The present heir to the house is Mr. Pharon Isarasena Na Ayutthaya, son of Phraya Issaraphongphiphat, and his family.