อาคารควรค่าแก่การอนุรักษ์

พระอุโบสถวัดศรีสุริยวงศารามวรวิหาร

พระอุโบสถวัดศรีสุริยวงศารามวรวิหาร

ที่ตั้ง 365 ถนนอมรินทร์ ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี

ผู้ครอบครอง วัดศรีสุริยวงศารามวรวิหาร

ปีที่สร้าง วัดก่อสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2417 พระอุโบสถก่อสร้างปี พ.ศ. 2420

ปีที่ได้รับรางวัล พ.ศ. 2549

ประวัติ

วัดศรีสุริยวงศารามวรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี สร้างขึ้นโดยดำริและทุนทรัพย์ของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) ผู้สำเร็จราชการแผ่นดินและสมุหพระกลาโหมในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ไม่ทราบว่าเริ่มก่อสร้างขึ้นในปีใด แต่ก่อสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2417 ในครั้งนั้น สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ได้กราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ขอพระราชทานชื่อวัด ซึ่งได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานนามว่า วัดศรีสุริยวงษาวาส และโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เป็นพระอารามหลวง แต่ต่อมาในพระราชหัตถเลขาฉบับ จ.ศ.1241 และฉบับหลังจากนั้น รวมถึงในพระบรมราชโองการพระราชทานวิสุงคามสีมา ปรากฏในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 1 จ.ศ.1246 (พ.ศ. 2427) ได้ทรงเรียกชื่อวัดนี้ว่า วัดศรีสุริยวงษาราม วัดนี้จึงใช้ชื่อว่าวัดศรีสุริยวงศาราม มาจนปัจจุบัน พระอุโบสถ ก่อสร้างขึ้นในราวปี พ.ศ.2420 สร้างเสร็จราวปี พ.ศ. 2422 ต่อมาในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 วัดศรีสุริยวงศารามก็ขาดพระสงฆ์จำพรรษา จนเกือบจะมีสภาพเป็นวัดร้าง พอหลังสงครามสมเด็จพระสังฆราชเจ้ากรมหลวงวชิรญาณวงศ์มีพระบัญชาให้เจ้าอาวาสวัดตรีญาติ อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ให้เป็นเจ้าอาวาสวัดศรีสุริยวงศาราม จึงได้มีการปฏิสังขรณ์วัดที่ปรักหักพังจากภัยสงคราม และพัฒนาต่อมาจนถึงทุกวันนี้

เสนาสนะดั้งเดิมของวัดนี้ มีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่ได้รับอิทธิพลตะวันตก ที่สำคัญคือ พระอุโบสถลักษณะสถาปัตยกรรมไทยผสมผสานสถาปัตยกรรมตะวันตกแบบคลาสสิค ประกอบด้วยหลังคาจั่วมีพาไลรอบ มุงกระเบื้องเคลือบ หน้าจั่วตกแต่งด้วยปูนปั้น ประดับช่อฟ้าใบระกา (ทำเพิ่มเติมเมื่อ พ.ศ. 2504) หลังคาพาไลรับด้วยซุ้มโค้งเสากลม ประกอบด้วยลวดบัวและหัวเสาในลักษณะคล้ายตะวันตก โดยรอบพาไลมีพนักระเบียงเตี้ยๆ ประดับลูกกรงปูนปั้น ผนังฉาบปูนขัดมันทำลวดลายคล้ายหินอ่อน ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปศิลปรัตนโกสินทร์ ซึ่งสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ได้ให้สร้างขึ้นในสมัยเดียวกับการก่อสร้างพระอุโบสถ

ปัจจุบัน วัดนี้ได้รับการบูรณะแล้วโดยกรมศิลปากร ซึ่งนอกจากพระอุโบสถแล้วองค์ประกอบดั้งเดิมที่น่าสนใจ อาทิพระเจดีย์ทรงระฆังบนฐานประดับซุ้มโค้ง กุฏิเจ้าอาวาสกุฏิญี่ปุ่น และซุ้มประตูทางเข้าวัดเป็นซุ้มโค้งประดับปูนปั้นสวยงาม สังเกตได้ว่า รูปแบบสถาปัตยกรรมและสิ่งก่อสร้างเดิมทั้งหมดจะเป็นแบบผสมผสานอิทธิพลตะวันตกทั้งสิ้น สันนิษฐานว่าเป็นความนิยมและความประสงค์ของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ผู้สร้างวัด ล้วนได้รับการดูแลร่วมกันจากทั้งทางวัดกับผู้มีศรัทธาทั้งหลายและจากทางหน่วยงานราชการ คือ กรมศิลปากรและกรมศาสนา

 

Wat Sisuriyawongsaram Worawihan

Location 365 Tambon Na Mueang, Amphoe Mueang, Ratchaburi Province

Proprietor Wat Sisuriyawongsaram Worawihan

Date of Construction Temple construction finished 1874, Ubosatha (ordination Hall) built 1877

Conservation Awarded 2006

History

Wat Sisuriywongsaram Worawihan is a royal temple under the pioneer and contributionof Somdet Chao Phraya Borommahasisuriyawong (Chuang Bunnag), the Regent and Minister of Defense in the reign of King Rama V. Although the date of construction is unknown, it has been recorded that the temple was completed in 1874. Upon completion, Somdet Chao Phraya Borommahasisuriyawong asked the favour of King Rama V to name the temple. The King graciously granted his wish and named the temple “Wat Sisuriyawongsawat” and also titled the monastery as a royal temple. However, according to later documents and the official allocation of the land to the temple in 1884, the King called it “Wat Sisuriyawingsaram. Hence, the temple has adopted the name to this day. Original buildings in the temple comprise of western influenced architecture, the most important of which is the Ubosatha (Ordination Hall) built in 1877 and completed in 1879. The architecture of the Ordination Hall is a mixture of Thai and western classic styles featuring gable roof with hipped lower tier finished with glazed tiles, gable panels decorated with stucco and Cho Fa, Bai Raka (Thai traditional roof decorative elements) which were added in 1961. The lower tier roof is supported by arches with round columns, capitals and mouldings in Western style, and verandahs around the hall enclosed with low stucco balustrades, and plastered walls painted in faux marble texture. Inside the hall enshrines a Buddha image of Rattanakosin art, constructed in the same date as the Ordination Hall by order of Somdet Chao Phraya Borommahasisuriyawong. In the temple grounds, there are several other interesting structures and original elements i.e. a bell-shaped pagoda on an arched base, the Abbot’s Residence, a Japanese Style Monks’ Residence, and an arched entrance gateway beautifully decorated with stuccos. It should be noted that the original architecture and structures are all influenced by western art, which could originate from the requirements and preference of Somdet Chao Phraya Borommahasisuriyawong, the contributor. At present, the temple has been restored by the Fine Arts Department.