วังวาริชเวสม์
วังวาริชเวสม์
ที่ตั้ง ซอยสุโขทัย 6 ถนนสุโขทัย เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
สถาปนิก / ผู้ออกแบบ พระสาโรชรัตนนิมมานก์
ผู้ออกแบบอนุรักษ์ดร.ยุวรัตน์ เหมะศิลปิน และฐิติวุฒิ ชัยสวัสดิ์อารี
ผู้ครอบครอง สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เช่าโดย บริษัท แมชชิ่ง สตูดิโอ จำกัด (มหาชน)
ปีที่สร้าง พ.ศ. 2476
ปีที่ได้รับรางวัล พ.ศ. 2551
ประวัติ
วังวาริชเวสม์เป็นที่ประทับของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าหญิงประภาพรรณพิไล (ประสูติเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2428) กับพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าหญิงวาปีบุษบากร (ประสูติเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2434) พระขนิษฐาซึ่งทั้งสองพระองค์เป็นพระธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 กับเจ้าจอมมารดาพร้อม พระตำหนักนี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2476 พระสาโรชรัตนนิมมานก์ (สาโรช สุขยางค์) เป็นสถาปนิกผู้ออกแบบและควบคุมการก่อสร้างบนที่ดินมรดกของเจ้าจอมมารดาพร้อม แต่พระองค์เจ้าหญิงประภาพรรณพิไลยไม่โปรดที่นี่ จึงเสด็จย้ายไปประทับที่วังริมถนนวิทยุ พระองค์เจ้าหญิงวาปีบุษบากรจึงประทับที่วังวาริชเวสม์นี้เพียงพระองค์เดียว จนสิ้นพระชนม์ในวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2525 ชื่อตำหนักได้รับการตั้งชื่อจากสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์วัดเทพศิรินทราวาส ว่า วาริชเวสม์ คำว่า วาริช หมายถึง น้ำหรือดอกบัว และเวสม์ หมายถึง ที่อยู่รวมกัน ดังนั้น วาริชเวสม์ หมายถึง ที่อยู่ของผู้เกิดจากน้ำ ซึ่งสอดคล้องกับคำว่า วาปี ที่หมายถึงบึงน้ำ วังวาริชเวสม์เป็นอาคารหลังแรกๆ ในช่วงของการเปลี่ยนยุคทางสถาปัตยกรรมจากตอนปลายสมัยรัชกาลที่ 7 ซึ่งยังมีความคิดที่ติดกับรูปแบบเดิมอิงกับอิทธิพลสถาปัตยกรรมตะวันตกแบบโบราณมาสู่ยุคต้นรัชกาลที่ 8 ที่มีความทันสมัยและเป็นสากลมากยิ่งขึ้น การก่อสร้างจึงเน้นความประหยัดและเรียบง่ายเนื่องจากบ้านเมืองขณะนั้นอยู่ในสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ วัสดุก่อสร้างเปลี่ยนจากวัสดุธรรมชาติมาเป็นวัสดุที่คงทนถาวรโดยนำคอนกรีตเสริมเหล็กมาใช้แทนไม้หรือปูน ทั้งในส่วนที่เป็นโครงสร้างและองค์ประกอบตกแต่งใช้ลวดลายเรขาคณิตแทนลวดลายฉลุแบบเดิม (บ้านขนมปังขิง)นอกจากนี้ยังเป็นยุคเปลี่ยนสถาปนิกจากที่เคยเป็นเจ้านายขุนนางหรือชาวต่างชาติ มาเป็นสามัญชน สะท้อนให้เห็นวิวัฒนาการเชิงรูปแบบและโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมในประเทศไทย
ตำหนักของวังวาริชเวสม์มี 2 ชั้น รูปแบบสถาปัตยกรรมผสมระหว่างสถาปัตยกรรมสมัยใหม่แบบอาร์ต นูโว (Art Nouveau) กับแบบโคโลเนียล หลังคาปั้นหยาผสมจั่ว ชั้นล่างด้านหน้าด้านหน้าเว้นช่องเสาตอนบนทำเป็นวงโค้งเปิดโล่ง
ปัจจุบัน วังวาริชเวสม์ เป็นอาคารอนุรักษ์ของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์และอยู่ในความครอบครองการใช้ประโยชน์ของบริษัท แม็ทชิ่ง สตูดิโอ จำกัด (มหาชน)
วังวาริชเวสม์
วังวาริชเวสม์
วังวาริชเวสม์
วังวาริชเวสม์
วังวาริชเวสม์
วังวาริชเวสม์
วังวาริชเวสม์
วังวาริชเวสม์
วังวาริชเวสม์
วังวาริชเวสม์
วังวาริชเวสม์
วังวาริชเวสม์
วังวาริชเวสม์
วังวาริชเวสม์
วังวาริชเวสม์
-
วังวาริชเวสม์
-
วังวาริชเวสม์
-
วังวาริชเวสม์
-
วังวาริชเวสม์
-
วังวาริชเวสม์
-
วังวาริชเวสม์
-
วังวาริชเวสม์
-
วังวาริชเวสม์
-
วังวาริชเวสม์
-
วังวาริชเวสม์
-
วังวาริชเวสม์
-
วังวาริชเวสม์
-
วังวาริชเวสม์
-
วังวาริชเวสม์
-
วังวาริชเวสม์
Warichwes Palace
Location Soi Sukhothai, Sukhothai Road, Khet Dusit, Bangkok
Architect / Designer Phra Sarotratthananimman
Conservation Designer Yuwarat Hemasilpin Ph.D. & Thitiwoot Chaisawataree
Proprietor The Crown Property Bureau Rented by Matching Studio Public Company Limited
Date of Construction 1933
Conservation Awarded 2008
History
“Warichwes Palace” belonged to Her Royal Highness Princess Wapeebussabahkorn, the eighty forth daughter of King Chulalongkorn (King Rama V) and Chao Chom Marada Prom. She was born on 25 June 1891 and passed away in 15 December 1982 at age 91.
Her royal palace was constructed in 1933. Phra Sarotratthananimman is not only an architect, but also supervised the construction work. Built on Chao Chom Marada Prom’s land heritage. Somdej Phraputthakosajarn, the abbot of Wat Thepsirinthrawas, gave the name “Warichwes” to this palace. The word “warich” means water and lotus and the word “wes” means a residence. The name of the palace, therefore, means a residence owned by a person who was born from water, and consequently means as same as Her Royal Highness’ name “Wapee” (a swamp).